top of page
ค้นหา

นามสกุลมอญ

*นามสกุลมอญสะท้อนชาตินิยม: ความรักในเชื้อหงส์วงศ์รามัญ*

“นิยม” คือความชื่นชมยินดีในทางจิตใจของแต่ละบุคคล ไม่ได้จำกัดอยู่แต่เรื่องชาติ ลัทธิ หรือเพศรส ทว่ามีอยู่ในทุกหมู่คน เช่น หมู่บ้านนิยม จังหวัดนิยม สถาบันนิยม หรือกระทั่งฟุตบอลคลับนิยม แม้จะดูเหมือนว่าความเป็น “ชาตินิยม” จะน่าหวั่นวิตกว่าอาจเป็นชนวนเหตุให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ แต่หากกล่าวเฉพาะในเมืองไทย การทำร้ายเข่นฆ่าที่มีเหตุมาจาก “ชาติ(พันธุ์)นิยม” ยังไม่ปรากฏชัด แต่ที่เกิดมีขึ้นแล้วคือ สถาบันนิยม แถบย่านปทุมวันอุเทนถวาย และฟุตบอลคลับนิยมระหว่างบางกอกกล๊าส FC กับการท่าเรือ FC เมื่อปี 53 ที่แม้ในวันนั้นไม่มีแฟนบอลถึงชีวิตแต่ในอนาคตก็ไม่มีสิ่งใดรับประกัน!

คนไทยมีนามสกุลใช้ตามพระราชบัญญัตินามสกุล พ.ศ. 2456 พระราชทานโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 คนมอญในเมืองไทย ตลอดจนคนเชื้อสายชาติพันธุ์ต่างๆ ที่เป็นสมาชิกสังคมไทยจึงมีนามสกุลใช้ทัดเทียมกัน เท่าที่สำรวจตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คนมอญจำนวนไม่น้อยนิยมตั้งนามสกุลโดยเลือกให้มีอัตลักษณ์บ่งบอกความเป็นมอญใน 3 ลักษณะ คือ

1. นามสกุลที่เป็นเป็นคำในภาษามอญ (บางนามสกุลมีคำไทยปน) เช่น เกาเตะ เต๊ะอ้วน เตะสมุทร เตี้ยเย เยี๊ยะเครือ เลี๊ยะเครือ กรดเครือ ทุเครือ อุมเครือ โดดเครือ ทุโดด คกมิ คะมิ สนคะมิ เขาแก่ง จุงาม กรานทอง เกอะประสิทธิ์ ทองเปราะ ปานอู ปุงบางกะดี่ กะดี่ ยันตะละพะ คชเสนี ปันยาระชุน กัตทะปิน ปอนพะงา เกาะเต้น แจบ้านเกาะ กงเกอะ เบาเนิด จัดละ โดดดี มะตรง มะเดชะ ทอลุม ทอมุด เกรียงพันธุ์ ฯลฯ

2. นามสกุลที่ปรากฏคำว่า “หงส์” สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำชนชาติมอญ หรือ “หงสาวดี” อดีตราชธานีของอาณาจักรมอญ เช่น กิมหงส์ มัญญะหงส์ เชื้อหงส์ หงส์ทอง หงส์ปาน หงส์สวัสดิ์ หงส์เวช หงสา เจริญหงสา ชาวหงษา มาหงสา ชินหงสา เหมหงสา ฯลฯ

3. นามสกุลที่ปรากฏคำว่า “มอญ” หรือ “รามัญ” ชื่อเรียกชนชาติและแผ่นดินมอญ เช่น มอญดะ มอญใต้ มอญเก่า มอญอัฐ มอญแก้ว เหมือนนามอญ มะคนมอญ ทองมอญ กองรามัญ เชื้อรามัญ หนุนรามัญ หนูรามัญ สมัครรามัญ ลอยรามัญ วงศ์รามัญ รามัญวงศ์ รามัญทองอู่ รามัญศรี รามัญอุดม รามัญรักษ์ ฯลฯ

ดังจะเห็นว่า ชาติทั้งหลายในโลกส่วนใหญ่ต่างมีนามสกุลด้วยกันทั้งสิ้น เพื่อแยกแยะสถานะ จำแนกเอกลักษณ์บุคคล โดยเฉพาะในทางราชการ นอกจากนี้ การใช้นามสกุลที่นอกจากจะบ่งบอก "ความเป็นมอญ" ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังเป็นการบอกเล่าอัตลักษณ์ตัวตนเพื่อให้ผู้คนทั่วไปรับรู้การมีอยู่ของตนอย่างมีศักดิ์ศรี รวมทั้งการเป็นคน "ชนชาติมอญ" ที่มีอารยธรรมเก่าแก่ยาวนาน ทั้งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นกลุ่มชนเดียวกัน มีประวัติศาสตร์ บรรพชน และวัฒนธรรมร่วมกัน และอาจหมายรวมถึงการประกอบพิธีกรรม ความคิดความเชื่อทางศาสนาและการใช้ภาษาร่วมกัน

"คนมอญเมืองไทย" ต่างมีนามสกุลใช้ โดยเฉพาะการเลือกใช้นามสกุลที่บ่งบอกอัตลักษณ์ความเป็นชาติพันธุ์มอญ ในขณะที่ "มอญเมืองมอญ" (ประเทศพม่า) ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายพม่า ยังไม่มีการใช้ระบบนามสกุล ข้อนี้ทำให้ผู้เขียนนึกย้อนถึงชีวิตในวัยเด็ก การกล่าวถึงบุคคลที่ไม่คุ้นเคยหรือมีชื่อซ้ำหลายคน ที่แม้จะเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงก็แทบจะไม่รู้จักนามสกุลกันและกัน จึงมักจะได้ยินบทสนทนาทำนองเดียวกันทุกครั้ง เป็นต้นว่า

“รู้จักอีฮะอีมั้ย?” เมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธก็จะได้รับการขยายความเพิ่ม “อีฮะอี แม่ไอ้ปล่าย น้องอีฮะอู ลูกตาเงียไง!” หากอีกฝ่ายยังยืนยันว่าไม่รู้จัก “...ตาเงีย ที่ได้ยายฮะอ่ะฮ์ลูกยายดงซอนตาฮะลายเป็นเมีย บ้านอยู่ปลายคลอง ข้างวัดปากบ่อไง...”

เหล่านี้เป็นความรู้ที่เกิดจากการจำแนกสาแหรกโคตรวงศ์ของคนมอญบ้านนอกสมัยก่อน ที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ในยุคที่ผู้คนไม่คุ้นเคยกับการใช้นามสกุล ดังจะเห็นว่าในวันรุ่งขึ้น ผู้เขียนก็มักจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปสำรวจตรวจสอบกับเพื่อนที่โรงเรียนเสมอ

“ไอ้ปล่าย! ลูกยายฮะอี หลานมังกี่ฮะอ่ะฮ์ กะตาเงีย เหลนยายดงซอน กะตาฮะลาย ปลายคลองปากบ่อ....”

และผู้เขียนก็จะได้รับการสำรวจตรวจสอบโคตรวงศ์ทั้งทางพ่อและทางแม่จาก "ไอ้ปล่าย" ไม่ต่างกัน

อ้างอิงมาจาก : เพจรามัญคดี





 
 
 

Comentários


bottom of page